ดูหนังฟรี หนังใหม่ชนโรง ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022
ดูหนังฟรี โดยเหตุนั้นเมื่อสรุปออกมานั้น ก็นับว่า Emergency Declaration เป็นหนังหายนะทุ่มทุนผลิตขึ้นมาจากประเทศเกาหลีที่ทำออกมาได้บันเทิงใจรวมทั้งตื่นเต้นตรงตามมาตรฐานอย่างดีเยี่ยม มีหลายๆซีนที่จะจำเป็นต้องทำให้ผู้ชมลุ้นเกร็งและก็แอบจิกเบาะตามไปกับความหวาดเสียวบนความสูง 4 หมื่นฟุตอย่างแน่แท้ ดีไม่ดี บางครั้งอาจจะไปกระตุ้นลักษณะการทำงานของอาการฉี่เล็ดแบบไม่เคยรู้เนื้อรู้สึกตัว
ด้วยเหตุว่าสิ่งที่หนังทำออกมาก้าวหน้าเด่นก็ถือฉากระทึกใจที่ไปได้สุดทางจริงๆและก็เป็นส่วนที่เหมาะสมที่สุดที่ช่วยประคองความสนุกสนานให้กับประเด็นนี้ ท้ายที่สุดที่ต้องการจะเสนอแนะอีกสิ่งก็คือ Emergency Declaration คงจะสมควรและก็ช่วยเติมเต็มอรรถรสการรับดูเหมาะยอดเยี่ยม ดู หนัง hd ถ้าว่าผู้ชมได้ประสบการณ์รับดูในแบบโรงหนัง 4DX ไปเชื่อก็ทดลองไปพิสูจน์มอง!
บทเขียนให้นางเอกเป็นหญิงที่อึด ถึก ทน ถ้าหากมองดูจากมุมของมือที่สาม จะไม่อาจจะรู้เรื่องได้เลยว่า จะทนไปเพราะเหตุใดกับเพศชายพรรค์นี้ แต่ว่าบทที่น่าคับอกคับใจส่วนตัวสำหรับเรารวมทั้งความรู้ความเข้าใจสำหรับเพื่อการสื่อภาษากายของ อาเลีย บาตต์ ทำให้พวกเรารู้เรื่องผู้แสดงตัวนี้ขึ้นมาเฉย ถึงแม้ว่าต้องการทะลุหน้าจอไปพูดว่า หนีไปเถิด อย่าไปเชื่อเขา อย่าใจอ่อนสิคุณ แต่ว่าถ้าเกิดมองดูไปถึงบริบทสังคมที่หนังกำลังตั้งอกตั้งใจเสียดสี พวกเราจะมองเห็นได้อีกประเด็นว่า ความทรหดอดทนที่คุณพบเจอเว้นเสียแต่ความรักที่หญิงคนหนึ่งจะมีให้กับชายผู้เป็นผัวอย่างล้นหลามล้นประตูแล้ว การหย่าร้างยังคงเป็นบาปติดตัวที่สังคมพร้อมจะมอบให้กับคุณทุกเมื่อ
ความกลัวที่คุณแสดง บอกเลยว่าเห็นใจ พวกเราลืมภาพคังลุกไบไปได้เลยจ๊ะ ด้วยเหตุว่าการกลับมาตอนนี้ อาเลีย บาตต์มารับบทนางระบมโดยแท้จริง คุณสวมบทเป็นพทรูได้อย่างแนบเนียนแล้วก็ลบภาพคังระอุไบไปหมดเกลี้ยง อาจจะเกิดขึ้นได้ก็เพราะความสามารถการแสดงของคุณเยื่อมยอดอยู่แล้ว หรืออาจเกิดขึ้นจากบทของหนัง ที่ดึงดูดใจให้พวกเราเชื่อฟังไปกับชะตาชีวิตของนางเอก จนกระทั่งลืมไปเสียสิ้นว่าสาวสวยคนนี้เคยเป็นมาเฟียสาวจากภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องมาก่อน
เปิด Netflix มารีทิวทัศน์ Yaksha: Ruthless Operations
เมื่ออัยการขอออกงานเป็นสายตอนแรก Yaksha: Ruthless Operations จะปลดปล่อยทางโรงหนัง แม้กระนั้นเรื่องด้วยเหตุการณ์วัววิด ทำให้บริษัทผลิตภาพยนตร์ตกลงใจขายสิทธิ์การฉายให้กับทาง Netflix และก็ได้ปลดปล่อยลงสตรีมมิ่งเมื่ออาทิตย์ก่อน โดยมีนักนำแสดงอย่าง ซอลคยองข้า แล้วก็ พัคแฮซู (Squid Game) ร่วมขบวนความระห่ำ
ถึงคิวของหนังแอคชั่นฟอร์มใหญ่ที่ปีอีกประเด็นของประเทศเกาหลีในปีนี้ ที่จัดว่าเพียงแค่ฟอร์มกลุ่มแคสติ้งผู้แสดงออกมานั้น ก็ยั่วยวนใจความพอใจได้อยู่ไม่น้อย เนื่องจากว่านี่เป็น “Seoul Vibe ซิ่งทะลุโซล” ที่ถือเป็นการผสมหนังอาชญากรรมแนวถนัดของประเทศเกาหลี เพิ่มเติมกับการประลองความเร็วสไตล์หนังเชื้อสายฟาสต์ แต่ว่าคำตอบที่ออกมานั้น..จะออกมาเป็นหนังฟาสต์ฉบับวัวเรียนได้หรือไม่?
ความทรหดอดทนนางเอกประเด็นนี้คุณยอมแบบไม่รู้จักว่าจะยอมเพราะเหตุไร ความใจอ่อนที่คุณเป็นและก็ความรักมากที่มีต่อผัวของคุณ ทำให้คุณหลงคารมณ์ผัวอยู่ร่ำไป มันบังตาคุณกระทั่งมิดและก็ละเลยความต่ำช้าของเขาไปอย่างสิ้นเชิง อีกอย่าง สตรีที่หย่าผัว ยังคงไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมมากเท่าไรนัก ก็จำเป็นต้องทนมือทนเท้าให้น่วมกันไปข้าง
แม้กระนั้นคนใดเลยจะทนทุกข์ทรมานอยู่กับชีวิตแบบงี้ไปได้ตลอดชาติ บทก็เลยเขียนเกมกลับๆที่พวกเราไม่คาดคิดออกมาในตอนกึ่งกลางเรื่องจนกระทั่งด้านหลังเรื่องที่จะต้องพูดว่าพีคที่สุด และก็เป็นดุจเงื่อนเฉลยคำตอบถึงความอัดอั้นตันใจ ความจำยอม รวมทั้งชีวิตที่จะต้องอยู่อย่างหลอก ของหญิงที่อาจมีอยู่ในสังคมประเทศอินเดีย จากการตัดสินใจที่ไม่มีทางออก
ฉากต่อสู้แอคชั่นสุดมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากขับยานสู้กัน จำต้องเห็นด้วยในความสามารถการตัดต่อของผู้กำกับมากมายก่ายกอง ที่ถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ลื่นไหล ดูแล้วเพลิดเพลินอินไปกับหนังตลอดทั้งเรื่องครึ่งแรกของเรื่อง เปิดมาพร้อมกับการเสนอแนะนักแสดง ผู้แสดงนำ ตัวร้ายใหม่ๆได้รวดเร็วทันใจไม่คำนำดี ค้างแรกเตอร์ของแต่ละตัวก็มีความเป็นเอกลักษณ์ บทสำหรับพูดฮาๆมีมาแทรกอยู่เรื่อยเป็นแอคชั่นขำๆไม่ซีเรียสราวกับภาคก่อนๆก่อนหน้าที่ผ่านมาเยอะแค่ไหน
ความน่ารักน่าเอ็นดูของเจ้าตัวหุ่นกลมกะปุ๊กลุ๊ก BB-8 ที่พวกเราได้มองเห็นกันในแบบอย่างหนังแล้วก็โปสเตอร์ เป็นหุ่นที่มีค้างแรกเตอร์เด่นชัดมากมาย มองละต้องการมีไว้ที่บ้านสักตัว บางทีก็อาจจะเป็นเนื่องจากว่าภาษาอังกฤษพวกเราไม่แข็งแรง บวกกับภาษามนุษย์ต่างดาวนานัปการเชื้อสายในหนังประเด็นนี้ ครั้งคราวก็มีแปลซึมซับขึ้นให้บางโอกาสก็ไม่มี
ก็เลยยังคลุมเคลือว่าไอฟังไม่ออกเองหรือคุยภาษาต่างประเทศกันอยู่ บางบุคคลกล่าวว่ายังไม่ต้องการที่จะไปมอง ขอดูภาค 1-6 ก่อนประเดี๋ยวไม่รู้เรื่อง ส่วนตัวแล้วมีความรู้สึกว่ามิได้จำเป็นต้องขนาดนั้น เพราะเหตุว่าแม้ว่าจะมีการเอ๋ยถึงนักแสดงในภาคที่ผ่านๆมา แม้กระนั้นก็มิได้มีส่วนสำคัญสำหรับในการทำให้อรรถรสการอินกับเรื่องราวภาคใหม่นี้มีข้อบกพร่องอะไร
เอาจริงเอาจังๆมันดาร์กกว่านี้ได้อีก ยังได้อีกและก็มีที่เหลือให้เพิ่มสีดำลงไปอีกมากมาย แม้กระนั้นภาพยนตร์เลือกที่จะไม่เพิ่มรวมทั้งใส่สีสันผ่องใสเข้ามาแทน ด้วยมุกขบขันที่แม้ไปอยู่ในรูปภาพยนตร์คอมเมดี้เพียวๆมันจะเรียกเสียงเฮได้เลยละ แต่ว่าเมื่อมาอยู่ในดาร์กคอมเมดี้หัวข้อนี้ ที่เนื้อแท้ของบทช่างเอาจริงเอาจัง นักเขียนก็เลยขำไม่ออกและก็กำเนิดความรู้สึกไม่ตลกขึ้นมาในทันที ความเสียดายนี้ก็เลยตกอยู่บนความรู้สึกที่ว่า เพราะเหตุใดไม่เข้มกว่านี้อีกหน่อยล่ะ หรือถ้ากลายเป็นดราม่าจัดหนัก อารมณ์ของการรับดูมันกำลังจะถึงรวมทั้งดึงอารมณ์ร่วมได้มากกว่านี้ไหม
Seoul Vibe ซิ่งทะลุโซล เกิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนที่ผู้คนในกรุงโซลต่างทวีความระทึกใจในช่วงไม่กี่วันก่อนใกล้จะถึงพิธีการเปิดการประลองกีฬาโอลิมปิกในปี 1988 นักซิ่งจากกลุ่มซางกเยป่าดงซูพรีมได้รับคำแนะนำที่ไม่บางทีอาจไม่ยอมรับ รวมทั้งจำต้องเข้าไปเกี่ยวพันกับการไต่ถามคดีเงินสินบนของบุคคลสำคัญ โดยมีสมาชิกมี ป่าดงอุค นักดริฟต์มือชั้นยอด, นักจัดรายการวิทยุจอห์น, บ๊กนัม คนนำทาง, ยุยงนฮี เจ้าที่การปลอมแปลงตัวบนรถจักรยานยนต์ และก็ จุนกี แมคไกเวอร์ที่ซางกเยป่าดง ดำเนินการของพวกเขาเริ่มขึ้นแล้ว!
รีวิวซีรีส์ The Sandman
การสู้รบเทวดาสิ่งที่เป็นนามธรรม ของกินสมอง สยองขวัญ ถ้าหากคนใดกันถูกจริตนี่เป็นเพชรเม็ดสวย ปี 1916 ผู้ศึกษาเล่าเรียนเวทมนตร์ในอังกฤษรวมตัวกันเชิญ มรณะ เทวดาที่ความตายมากักขังเพื่อจะได้ข่มขู่บังคับให้รู้สึกตัวชีพผู้เป็นสุดที่รักกลับมา แม้แต่ว่าข้อผิดพลาดได้ทำให้เทวดาอีกตนถูกคุมขังไว้แทน โน่นเป็น นิมิต เทวดาที่ความฝันเมื่อเหล่าจอมเวทมนตร์มิได้ความต้องการก็เลย
ฉกชิงวิ่งราวอาวุธของนิมิตเอามาใช้ประโยชน์แทน โลกอีกทั้งใบเมื่อไร้ความฝันก็ทำให้บางบุคคลไม่บางทีอาจหลับรวมทั้งบางบุคคลไม่บางทีอาจตื่น แล้วก็ที่สำคัญเมื่อไร้ผู้ดูแลเหล่าภูติผีความฝันก็เลยหนีออกมายังโลกมนุษย์ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝันร้ายนาม วัวรินเธียน ผู้ติดอกติดใจการฆ่าคน เป็นหน้าที่ของนิมิตหรือแซนด์แมนที่ต้องหาทางหนีจากการควบคุมขังรวมทั้งรักษาสมดุลของโลกอีกที
ถึงแม้ Seoul Vibe จะเป็นหนังที่สร้างมาเพียงแต่ลงหน้าจอสตรีมมิ่ง แม้กระนั้นจำเป็นต้องสารภาพเลยว่างานสร้างจริงๆๆเพราะว่าเห็นได้ชัดเลยว่าหนังได้ทุนสร้างจำนวนหลายชิ้นเลย โดยหนังได้ “มุนฮยอนซอง” ผู้กำกับชายหนุ่มที่เคยแจ้งมาจากหนังดัง As One เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา แต่ว่ายังไม่มีจังหวะได้เด่นสักครั้ง การได้ก้าวขึ้นมาจับจับทำหนังสเกลที่ใหญ่ๆขนาดนี้ ก็นับว่าทำเป็นน่าพึงพอใจตามมาตรฐาน ที่โชคร้ายหน่อยๆตรงที่หลายส่วนประกอบยังมองปกติและไม่ได้เด่นสักเท่าไหร่
คอนเซ็ปต์ของ Seoul Vibe นับว่าได้ว่าออกจะน่าดึงดูดอยู่ โดยยิ่งไปกว่านั้นการใช้เบื้องหลังในตอนสมัยปี 1988 ของประเทศเกาหลีใต้ ที่นับว่าเป็นสมัยที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนในสังคมประเทศเกาหลีอีกปีนึงอย่างยิ่งจริงๆ อีกทั้งได้เป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิก และก็อัตราการคอร์รัปชันในสมัยนั้นค่อนข้างจะสูงพอได้ เพียงแต่ว่าเมื่อหนังเอามาแต่งเป็นบทหนังออกมาแล้วนั้น ยังมองขาดๆเกินๆรวมทั้งให้รสที่ยังอร่อยไม่สุดทางสักเท่าไหร่
การเดินเรื่องที่เพียรพยายามใส่เหตุผลของการทนอยู่ให้ผู้ชมรู้เรื่องนางเอก กลายเป็นแผลใหญ่ของภาพยนตร์หัวข้อนี้ การเลือกใช้แนวทางเล่าความหวาน ด้วยการปลดปล่อยภาพชีวิตรื่นเริงช่วงสั้นๆออกมานั้น ขาดความเด่นน่าติดตามไปชั่วช้าชั่วครู่อย่างยิ่งจริงๆ ดีที่ยังไม่ถึงกับขนาดให้พวกเราจะต้องเลื่อนผ่าน เนื่องจากว่ามันทำให้ทั้งยังพวกเราและก็นางเอกในเรื่องรู้เรื่องได้ว่าเพศชายบางบุคคลนั่นก็คือแมงป่องพิษดีๆนี่เอง รวมทั้งสิ่งที่แม่เล่าให้ฟังมันเป็นความจริง
ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของคังอิน (ซอลคยองเรา) หัวหน้าทีมปฏิบัติงานลับ NIS ที่เมืองเสิ่นหยาง เมืองจีน เขาได้รับสมญานามว่า “ยักษ์” ด้วยเหตุว่านิสัยใจร้ายและก็ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อตนเองบรรลุผลที่อยาก แม้ว่าจะจะต้องถึงขนาดเลือดตกยางออกก็ตาม ในระหว่างที่ฮันจีฮุน (พัคแฮซู) อัยการในที่ทำการอัยการเขตกลางเมืองโซล ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจำพวกยอมหักไม่ยินยอมงอ
พร้อมพุ่งเข้าชนคนผิดในทุกเหตุการณ์ กล่าวได้ว่ายึดหลักข้อบังคับไม่แคร์หน้าอินทร์หน้าพระพรหม ถูกลดขั้นสำหรับการดำเนินการเพราะเหตุว่าไปงัดข้อกับนักธุรกิจตามที่คงจะมีเกี่ยวข้องกับแนวทางการขายชาติ เขาก็เลยสมัครใจที่จะไปตามสืบแนวทางการทำงานของคังอิน พื้นที่การมั่นใจว่าเขากำลังแอบซ่อนความลับบางสิ่งบางอย่างของภารกิจเอาไว้ ถ้าเกิดจะมีใครซักคนคิดรวมทั้งคาดหมายว่า ภาพยนตร์หัวข้อนี้เป็นหนังเอาคืน ที่เมียเอาคืนผัวตัวร้ายอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน สะใจอีช้อยแน่นอนบอกเลยว่าไม่ใช่ แล้วก็คุณจะคับอกคับใจแล้วถามนางเอกว่า “นี่เป็นเอาคืนแล้วหรอ”
เพราะเหตุว่าภาพยนตร์ประเด็นนี้กำลังประพฤติตัวเป็นปากเสียงให้สังคมรับทราบว่า ในมุมหนึ่งของเมืองใดเมืองหนึ่งบนโลก ยังแต่งงานที่เมียจะต้องทนทุกข์ทรมานด้วยความซื่อต่อชายอันเป็นสุดที่รักอยู่จริงๆแล้วก็ทางออกของพวกคุณมีไม่มากไม่น้อยเลยทีเดียวนัก อย่าให้พวกคุณจะต้องถึงทางตันเลย เห็นใจกันบ้าง มองเห็นรอยระบมพวกนั้นไหม มองเห็นแววตาที่หวาดหลัวแล้วก็มุ่งหวังการกลับดวงใจของคุณบ้างรึเปล่า
เส้นเรื่องของ Seoul Vibe ราวกับจะมองสลับซับซ้อนแล้วก็มีมิติปม กลับถ่ายทอดออกมาได้ยังไม่ค่อยกลมกล่อมละมุนละไมสักเท่าไหร่ หนังยังขาดเสน่ห์บางสิ่งไปอย่างโชคร้าย พาร์ทการแข่งรถแข่งขันซิ่งต่างๆก็ทำออกมาให้รู้สึกเพียงแต่เฉยๆมิได้ละลานตาหรือรู้สึกว้าวอะไรอะไร บางทีอาจจะเป็นเพราะเหตุว่าหนังแนวนี้พวกเราได้มองเห็นกันมาหลายเรื่อง เพียงแค่หนังเครือญาติฟาสต์ก็มองกันไป 9 ภาคแล้ว มันก็เลยเป็นปัญหาที่ยากที่จะสร้างความไม่เหมือนได้
แน่ๆว่าหนังประเด็นนี้มีจุดเด่นสุดๆก็ตรงที่แคสตติ้งดาราหนังชุดใหญ่ บอกได้เลยว่ามีดารารับเชิญโผล่มาร่วมแจมเยอะ ในเวลาที่กลุ่มผู้แสดงแต่ละคนก็นับว่าเล่นได้ตามมาตรฐาน “ยูอาอิน” นำกลุ่มมาในหัวข้อนี้ ถึงเขาจะถูกวางตัวให้มาเป็นนางหามของหนังประเด็นนี้ แต่ว่าหน้าที่ในหนังก็มิได้ทำเขาเด่นกว่าคนใดกันอื่นเกินความจำเป็น แม้กระนั้นก็ยังมิได้กลืนไปกับเนื้อเรื่อง การแสดงของเขาก็ยังให้มาตรฐานระดับมือโปรที่ชี้ให้เห็นว่าจำเป็นต้องทำอย่างไร
พวกคุณถูกผูกมัดด้วยขนบ ด้วยสายตาของมนุษย์ในสังคม คุณต้องการจะเลือกแต่ว่าบางคราวมันก็เลือกยาก และก็ถ้าว่าท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่คุณเลือกทำ มันบางครั้งก็อาจจะเกิดเรื่องสมรวมทั้งควร แต่ว่ามันก็จะเปลี่ยนลูกปืนฝังในที่ย้ำเตือนความรู้สึกของคุณอยู่ดี แม้กระนั้นความมานะบากบั่นของหนังที่จะสื่อแล้วก็วัตถุประสงค์นี้ที่คนเขียนสัมผัสได้ มันกลับบางเบา ภาษาพูดก็พูดได้ว่าทำไม่ถึง รู้เรื่องล่ะว่าอุตสาหะจะพรีเซนเทชั่นในมุมซอฟต์ๆเคล้าไปกับอารมณ์เบาสมองเพราะเหตุว่าเนื้อแท้ภายในมันไม่ซอฟต์เอาซะเลย แต่ว่าข้าวของที่ใส่มามันกลับเกินจำเป็นจนถึงโชคร้ายเอามากๆแล้วก็ทำให้เวลาของภาพยนตร์ยืดยาวไปถึง 2 ชั่วโมงแน่ะ ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นที่ต้องถึง
แม้ว่าจะเป็นหนังแนวสาย แต่ว่าเอาเข้าจริง Yaksha: Ruthless Operations มีความเป็นหนังมาเฟียกลุ่มสเตอร์อยู่พอได้อย่างยิ่งจริงๆ เนื่องจากว่าในเรื่องมีทั้งยังประเทศเกาหลีเหนือ ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศญี่ปุ่น จีน เดินตบเท้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดสำหรับเพื่อการล้วงไส้ของอีกข้างกันอย่างสนุกสนานมือ ซึ่งเกมชิงไหวชิงพริบระหว่างผู้แสดงนั้น สร้างความกังขาให้กับผู้ชมอยู่เสมอเวลาว่าตกลงแล้ว ผู้แสดงอย่างคังอินนั้น “ดีหรือร้าย” กันแน่
เว้นเสียแต่บรรดาตัวละครหลักแล้ว ดาราสมทบแต่ละตัว ก็สะท้อนภาพขณะที่โควิดระบาดได้อย่างน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นคริสตัล (ไอริส อพาโทว์) เจ้าแม่ Tiktok สกิลการเต้นสุดปัง สาวน้อยวัย 18 ปีที่สตูดิโอจับคุณมาเล่นหนังหัวข้อนี้เพื่อเรียกแฟนคลับนางมาดูหนังภาคต่อ โดยอย่างที่เรารู้ดีว่าแอปฯ นี้บูมไปทั่วทั้งโลกณ ตอนนั้น จนกว่าศิลปินดาร์เรน (เฟรด อาร์มิศาสนาเชน) ผู้กำกับหนังคลิฟบีสต์ 6 ที่พยายามเคลมตัวเองถี่มากว่าเขาเป็นผู้กำกับระดับรางวัลซันแดนซ์ แม้ว่าสิ่งที่ผู้ชมได้เห็นบนจออยู่ตลอดเวลานั้นน่าจะทำให้ผู้กำกับคนนี้ครอบครองรางวัลราซซี่อวอร์สอย่างแน่นอนในอนาคต!
อนิเมะหัวข้อนี้สร้างความครื้นเครง เฮฮา พร้อมเรื่องราวคตวามสมาคมมิตรภาพของเพื่อนพ้อง และครอบครัวได้เป็นอย่างดี แล้วก็มีความแฟนตาซีเพิ่มสัสันเข้ามาให้ครบรส งานภาพวางแบบงาม แจ่มใสตามสไตล์บทรวมถึงแนวเรื่องที่ครบถ้วนสมบูรณ์เยอะมากๆการนำกย์โอเค มาตรฐานของสตูดิโอรวมทั้งนักอธิบาย รวมทั้งคำบรรยายไทยใน TrueID เป็นไปตามอารมณ์ แล้วก็หน้าที่อย่าวบริบูรณ์
โดยรวมจำต้องกล่าวว่า ‘Prey’ เป็นหนังที่ตีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการผลิตได้ขาด สามารถป้อนปากผู้ชมที่ประสงค์เรื่องราวดิบๆเข้าใจง่ายๆแต่ขอให้สนุกก็พอเพียงซึ่งเป็นผู้ชมกลุ่มใหญ่ ใส่นัยความไม่ลงรอยกันเชิงประวัติศาสตร์และจากนั้นก็ข้อโต้เถียงถึงกระแสของโลกเวลานี้ลงไปแบบเห็นได้ชัดหากแม้ไม่ขัดหูขัดตาเพื่อผู้ชมกลุ่มที่อยากได้อะไรที่เป็นสาระบ้างได้เอาไปถกกันต่อ และยังไม่ทิ้งแฟนของ ‘Predator’ ทั้งฉบับหนังรวมทั้งฉบับหนังสือให้เจออีสเตอร์เอ้กอปิ้งน่าชมเชย ได้พ่วงจูงใจให้คนที่สงสัยว่ามันคืออะไรไปค้นหาต่อด้วย รวมทั้งที่ว่ามาทั้งมวลหนังพาผู้ชมไปได้หลายระดับการดูโดยที่ไม่มีกลุ่มไหนที่รู้สึกน่าเบื่อเลยด้วย นี่ยอดเยี่ยมยอดเยี่ยมการบรรลุวัตถุประสงค์จริงๆของหนังเรื่องนี้
เอาเป็นโดยภาพรวมนั้น Purple Hearts นับได้ว่าหนังรักที่ได้ผลดีเหนือการคาดคะเนไปนิดหนึ่ง ด้วยเหตุว่าไม่คิดว่าจะสามารถตอบปัญหาความน้ำเสียได้น่ายกยอเพียงเท่านั้น เป็นความซ้ำซากในต้นแบบที่ยังทำออกมาได้บันเทิงใจ เคมีพระนางเข้ากันได้ และจากนั้นก็หลายๆองค์ประกอบก็ทำออกมาก้าวหน้า ทั้งนี่แปลงเป็นหนังแนวที่ค่อนข้างจะหาดูได้ยากขึ้นในยุคนี้ เป็นความพร่ำเพรื่อที่เราเพลิดเพลินใจได้อย่างไม่น่าเชื่อเช่นเดียวกัน
เปิด Netflix มารีวิว The Bubble
กองถ่ายนี้ วายป่วงในห้วงโควิด! คนไหนจะไปรู้สึกว่าการออกกองทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ในตอนโควิด (ระลอกแรก) ระบาดจะเกิดเหตุทุกยากลำบากของสตูดิโอ เมื่อการขนดาราผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยมากักตัวรวมกันเพื่อถ่ายหนังจะวายป่วงกว่าที่คิด! ผลงานภาพยนตร์ตลก การควบคุมของจัดด์ อพาโทว์ ซึ่งพากเพียรจะเสียดสีอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวูด ไม่ว่าจะเป็นระบบสตูดิโอที่อุตสาหะจะสร้างหนังแฟรนไชส์ภาคต่อทั้งที่บทหนังเฮงซวยแล้วหลังจากนั้นก็ซ้ำจากจำเจ บรรดาดาราเซเลบริตี้ที่มากเรื่องมากความ ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในกองสร้างภาพยนตร์ และการจับเอาสถานะการณ์ในตอนโควิด-19 ระลอกแรกๆระบาดมาเป็นต้นเหตุสำหรับเพื่อการเพิ่มความวายป่วงให้กับหนังเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
และถ้าหากจะมีจุดบกพร่องจริงๆที่พอนึกออกเป็นการรับมองผ่านหน้าหน้าจอที่บ้าน ทำให้เห็นรายละเอียดซีจีที่มันดูเอาอย่างๆไปนิด หรืออาจด้วยโปรดักชันที่กระจ่างแจ้งว่าจะเป็นหนังสำหรับฉายสตรีมไม่งทำให้บางฉากซีจีดูยังไม่เลิศสักเท่าไหร่ก็เป็นได้ รวมทั้งความรู้สึกแปลกๆระหว่างมองดูที่มีอีกอย่างเป็นเชื้อสายมือสังหารที่ถูกใจในเกียรติศักดิ์ตัวเองขนาดนั้นจะล่องหนสู้ทำไมในขณะเหนือกว่าอีกข้างมากอยู่แล้ว อืมมม
ในตอนนี้ที่เราจะเห็นได้ชัดๆเลยว่า พวกหนังรักโรแมนติกปกติแทบจะไม่มีที่ยืนสำหรับการพาตัวไปลงจอฉายในโรงภาพยนต์ เนื่องจากถ้าว่าไม่เยี่ยมจริงแล้วละก็มีสิทธิ์ปังประลัยสูงไม่น้อย โน่นก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้หนังแนวนี้ต่างพากันทยอยลงจอสตรีมมิ่งกันหมด เหมือนกันกับ “Purple Hearts” หนังรักกลิ่นหอมหึ่งโชยมาเรื่องปัจจุบันนี้ ที่แปลงเป็นบทรักดราม่าที่เหมือนจะธรรมดาแต่พอใช้ได้ดูเนื้อในแล้วเออ ก็เพลินดีเหมือนกันนะ
The Bubble เล่าช่วงเวลาที่หนังเรื่องคลิฟบีสต์ภาค 6 กำลังจะถ่ายทำถ่ายทำ แม้กระนั้นด้วยเหตุโควิดระบาด ทำให้สตูดิโอจะต้องใช้กรรมแนวทางนำคณะทำงานรวมทั้งดาราภาพยนตร์ทุกคนมาอยู่รวมกันในโรงแรมแห่งหนึ่งในอังกฤษ โดยเรียกว่า “เดอะ บับเบิ้ล” เป็นระยะเวลาสามเดือนจนกว่าหนังจะถ่ายทำเสร็จแล้วก็ปิดกล้อง โดยแคคอยล (ค้างเรน กิลแลน) เป็นนักแสดงคนภายในที่สุดที่ตอบตกลงจะกลับมาแสดงแฟรนไชส์นี้อีกครั้ง ภายหลังที่ตัวเองเคยเทหนังภาคก่อนไปเล่นหนังอินดี้ แม้กระนั้นหลังจากถูกวิภาควิจารณ์เสียหายไม่เหลือชิ้นดี เพื่อกู้ความเลื่องลือคืนมาคุณเลยกลับมาเล่นหนังเรื่องนี้อีกครั้ง
ระหว่างเดินไปหน้าโรงภาพยนต์มองเห็นคนแต่งชุดดารา Star Wars เดินอยู่จำนวนมากเลย ใส่เสื้อยืดสกรีนเป็นลายศิลปินบ้าง ใส่หน้ากากบ้าง ถือกระบี่ไลท์เซเบอร์บ้าง แม้กระนั้นบางคนก็มากันแบบจัดเต็มครบชุด เท่ห์จำนวนมากๆบางคนก็มากันเป็นกลุ่มก็มี ที่ประทับใจมากมายก่ายกองๆก็คือ มีคู่นึงที่น่าจะเป็นพ่อลูกกัน คนพ่อใส่ชุดเจได คนลูกก็แต่งอย่างกับเป็นพาดาวัน(Padawan) ทั้งบุคลิกและก็เครื่องแต่งตัวดูเหมือนกับว่าในหนังจำนวนมากกกก แลเห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้
‘Uncoupled’ ใช้สูตรสำเร็จของสตาร์แบบไม่ต้องเสียวัดชั่งน้ำหนักตวงใหม่ หรือกล่าวให้ชัดเจนเป็นเดินตามรอยสูตรสำเร็จของ ‘Sex and the City’ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครเอกที่เป็นชนชั้น Upper Class (มีเงินทอง แต่ว่าไม่ได้ร่ำรวย) กลุ่มเพื่อนพ้องสามสี่คน บทพูดที่เต็มไปด้วยมุกขบขันสัปดน (แต่ไม่อุจาด) ผสมกับมุกตลกที่อัดแน่นด้วยวัฒนธรรมป๊อป รวมทั้งลีลาท่าทางการตอบกลับแบบ ทำมือเป็นเครื่องหมายคำพูด “นิวยอร์กเกอร์” และแน่นอนบรรยากาศของเมืองแมนฮัตตัน ที่เสมือนเป็นตัวละครสำคัญของซีรีส์อย่างกับ ‘SATC’ (หรือนครกรุงปารีส ใน ‘Emily in Paris’) ผลที่ออกมาถึงไม่เกินความคาดหมาย
แม้กระนั้นก็ไม่จัดว่าน่าผิดหวัง ‘Uncoupled’ เป็นซีรีส์ที่สร้างความชื่นบานเจริญ ดูหนังฟรี หลายฉากทำให้คุณปล่อยเสียงเฮดังกระหึ่มแบบไม่ตั้งตัว ด้วยความยาวตอนละครึ่งชั่วโมง ดูเพลิดเพลินเจริญใจๆครู่หนึ่งก็จบซีซันแล้ว แต่ว่าสิ่งที่ต้องการจะต้องเปลี่ยนแปลง (แม้ว่าจะสร้างซีซัน 2) เป็นบทที่วนคงเดิม ไม่ไปไหน ถือว่าเป็นข้อผิดพลาดเดียวกับ ‘EIP’ ที่เส้นเรื่องหลักไม่เดินไปไหน มีแต่การเล่าเส้นเรื่องรอง การเผชิญหน้ากับสถานะการณ์ต่างๆไปวันๆ(แต่ขั้นต่ำผู้แสดงใน ‘Uncoupled’ ก็มีความรู้สึกไตร่ตรองที่ “ฉลาดมากจริงๆ” กว่า – ขอโทษนะ – เอมิลี)
ความบันเทิงของ The Bubble เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่หนังอุตสาหะจิกกัดวงการภาพยนตร์ ที่ไม่เคยทราบว่าจริงหรือลวง แต่ก็ดูอย่างกับว่ามีเค้าโครงของข้อสรุปอยู่พอใช้ได้ ถ้าหากใครกันแน่พึงพอใจวงการสนุกต่างบ้านต่างเมืองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็คงจะขำไปกับหลายๆจุดที่หนังพยายามขยี้ หรือจนกว่าแขวะความเหลวไหลไร้สาระของอุตสาหกรรมเบิกบานยักษ์ใหญ่ของโลกใบนี้เลยก็ว่าได้
รีวิวหนัง Star Wars : The Force Awakens
มหากาพย์การรบที่กาแล็คซี่ รอกันมานานกว่า 10 ปี สำหรับซี่ล้นส์การรบทัพจับศึกที่กาแล็คซี่ Star Wars และจากนั้นก็พึ่งเปิดตัวกันไปใหม่ๆสำหรับชาวบริสเบนและก็ออสเตรเลีย เมื่อคืนวันพุธที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา Star Wars Episode VII : The Force Awakens โดยเท่าที่ผ่านมาเราได้จองตั๋วรอบพรีเมียร์ล่วงหน้ากว่า 2 อาทิตย์ (เกือบจะไม่ได้ดูแล้ว เพราะว่าเต็มเอี๊ยด ขนาดเป็นรอบเที่ยงคืนนะเนี่ย) เพื่อมารีวิวบรรยากาศแล้วก็ความมันส์ของหนังแบบไม่สปอยให้ได้อ่านกัน ก่อนที่จะตัดสินใจไปดูกันในโรงนะจ้ะ สำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะไปดูดีมั้ย
Purple Hearts เกิดเหตุราวชีวิตของวัยรุ่นคู่หนึ่งที่ต่างต้องเจอหน้ากับปัญหาและก็ปัญหาชีวิตด้วยกันทั้งคู่ แคสซี่ มีความต้องการต้องการจะเป็นนักแต่งเพลงที่ประสบความสำเร็จ แม้กระนั้นคุณยังติดแหง็กเป็นเพียงบาร์เทนเนอร์ในบาร์ เนื่องจากว่าปัญหาเรื่องหนี้สิน ดูหนังฟรี อย่างกับ ลุค สมัยเก่าหนุ่มใจแตกที่เกณฑ์ทหารเข้ากรม เพื่อหวังจะกลับใจ พวกเขาทั้งคู่ได้ตกลงแต่งงานกันแบบเล่นๆเพื่อหวังจะได้ใช้ผลตอบแทนกองทัพกับผลตอบแทนของตัวเอง
แค่เพียงฟังเค้าเรื่องก็สัมผัสได้ถึงความคลายเช่ซ้ำแล้วซ้ำอีกพอใช้ได้ นี่มันพล็อตสมัย 20 ปีก่อนด้วย กับวัยรุ่นต้องฝืนมาแต่งงานกันเล่นๆแล้วอยู่ๆไปก็หลงใหลกันขึ้นมา เป็นพล็อตที่ซ้ำซากจำเจและก็เพียงเท่านี้เราก็ทราบถึงจุดมุ่งหมายของเรื่องกันแทบจะไม่ต้องเดาอะไรกันให้ยากเลยด้วย ซึ่งแน่นอนว่า สิ่งที่ออกมานั้นก็เป็นไปอย่างที่เราคิดนั่นแหละ หนังดำเนินไปตามสูตรสำเร็จเป๊ะๆเลย
ความเกี่ยวเนื่องระหว่างผองเพื่อนพ้องศิลปิน ดูอย่างกับว่าแต่ละคนจะมีนิสัยบ๊องๆกันไปคนละทางไม่ว่าจะเป็นดัสติน (เดวิด มองดูคอฟนี) ดารานำประจำแฟรนไชส์ที่เป็นโปรดิวเซอร์ของเรื่องโดยที่เขาไม่เคยได้รับเครดิต แล้วก็อุตสาหะจะปรับบทของตนให้ดาราหนังฉลาดหลักแหลมขึ้นบ้าง ซึ่งเขาพยายามจะกลับไปรีเทิร์นรักกับลอว์เรน (เลสลี่ แมนน์) ภายหลังที่ทั้งคู่ต้องกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง แล้วก็เมื่อจำต้องติดอยู่ในเดอะ บับเบิ้ลเป็นระยะเวลาที่ยาวนานทุกสิ่งทุกอย่างก็เอื้อให้ทั้งคู่ขึ้นเตียงอีกครั้ง
แน่นอนว่าคนที่แบกซีรีส์ไว้สูงที่สุดเป็นเด็กหนุ่มแฮร์ริส ดาราวัย 49 ที่บริหารเสน่ห์เจริญก้าวหน้าเหมือนเคย โชคดีที่เขาเป็น “หวานใจ” ของผู้ชมอยู่แล้วนับตั้งแต่ซีรีส์ ‘How I Met Your Mother’ ก็เลยไม่ยากที่ศิลปินไมเคิลจะตกเราได้ตั้งแต่ตอนแรกๆ(นอกเสียจากว่าคุณจะชังเขาเป็นทุนเดิม โน่นจะกลายเป็นความเบื่อหน่ายไปในทันทีทันใด) ผงชูรสของซีรีส์จำเป็นต้องยกให้ ทิชา แคมป์เบล (Tisha Campbell) ในบทซูซาน เพื่อนพ้องสาวม่าม้าเลี้ยงผู้เดียวยิ้มแย้มแจ่มใสที่ทำธุรกิจร่วมกับไมเคิล ค้างแรกเตอร์ของคุณเต็มไปด้วยสีสัน
สร้างเคมีกับแฮร์ริสเจริญรุ่งเรือง แบบที่ไม่ล้นจวบจนกระทั่งอย่างยิ่งแล้วก็ยังมีพื้นด้านหลังของผู้แสดงมือจับต้องได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมี บรูกส์ แอชแมนสกาส์ (Brooks Ashmanskas) ในบท สแตนลีย์ รวมทั้ง เอเมอร์สัน บรูกส์ (Emerson Brooks) ในบทใบเสร็จลี สองเพื่อนเกลอเกย์ในกรุ๊ปของไมเคิลที่ทั้งรอคอยปลอบประโลม กระทบกระแทก และสร้างเสียงหัวเราะ ท้ายที่สุดเป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ มาร์เซีย เกย์ ฮาร์เดน (Marcia Gay Harden) ในบทแคลร์ ไฮโซสาวใหญ่ที่พึ่งพิงถูกสามีทิ้งแล้วก็เปลี่ยนแปลงมาเป็นลูกค้าของไมเคิล แคลร์เป็นตลอดตัวแปรและตัวแปลก (แยก) ที่เข้ามาสร้างสมดุลให้กับกลุ่มดาราหนังหลัก ฮาร์เดนเล่นแบบนิ่งๆน้อยๆแต่มีพลัง
แต่ว่าแปลงเป็นบนพื้นฐาของความซ้ำๆซากๆนั้น Purple Hearts กลับสามารถใส่เสน่ห์บางอย่างเสริมเข้าไป ที่เพียงพอจะช่วยเลื่อนฐานะให้กับหนังรักดราม่าน้ำเสียๆเรื่องนี้ให้ดูดีขึ้นมาได้เป็นกอง ไม่ว่าจะเป็นองค์ประกอบของการเล่าเรื่อง ที่ไม่ได้เชิญชวนน้ำเสียคาวกลิ่นอะไรก็แล้วแต่แม้กระนั้นหนังดำเนินไปและด้านเศร้าเทาของติดอยู่แรกเตอร์ดาราหนังทั้งสองตัว ที่ต่างก็ไม่ใช่บุคคลที่มีภูมิหลังที่สะอาดอะไร
แล้วก็เมื่อมาเพิ่มเติมอีกกับอินเนอร์รวมทั้งเสน่ห์ของดารานำทั้งคู่นี้ “โซเฟีย คาร์สัน” กับ “นิโคลัส กาลิตซีน” ที่ควรต้องรับสารภาพเลยว่าพวกเขาโปรยเสน่ห์เจริญในหนังประเด็นนี้ อีกทั้งเข้าถึงหน้าที่ดาราที่ได้รับอย่างครบถ้วนอย่างน่าทึ่งอีกด้วย ซีนอารมณ์ก็จัดให้เต็ม ซีนหวานๆก็หยอดมาได้เหมาะเหม็ง เป็นเคมีนักแสดงที่น่าเกินจริงว่าจะเข้ากันได้เพียงนี้ นี่ก็เลยเป็นอีกองค์ประกอบที่ช่วยส่งเสริม Purple Hearts เรื่องนี้
ถึงเค้าโครงของหนังจะน้ำเสียสไตล์หนังจากนิยาย นิโคลัส สปาร์กส์ ในอดีตราวนั้น ทั้งยังความดราม่าแล้วก็การจับเอาการราววงการชุดสำหรับใส่สีกากีเข้ามากล่าวถึง เป็นสูตรสำเร็จที่ผู้ชมคงเคยเห็นกันมาแล้ว แต่หนังสามารถแตะต้องและก็จับหัวข้อได้อย่างไม่อ้อมค้อม amb168win ทำให้กลิ่นเน่าๆกลายเป็นกลิ่นชวนดมกลิ่นเได้เพลินใจไปอย่างน่ามหัศจรรย์อย่างเดียวกัน
